บริษัท TERA ทำธุรกิจอะไร
เราทำธุรกิจในกลุ่ม Tech หรือ ICT ให้บริการลูกค้าองค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ โดยบริษัทเราแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. กลุ่มรายได้จากบริการประเภท Cloud และ Value Added อื่นในลักษณะที่เป็นรายได้ประจำสม่ำเสมอ หรือ Recurring Services
2. กลุ่มที่ขายฮาร์ดแวร์ On-premise และ Cyber Security
3. ให้บริการ Application ด้าน Logistics โดยมีชื่อว่า Skyfrog ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้ ไม่ได้มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มธุรกิจ Logistics เท่านั้น แต่ใช้ได้กับทุกธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องส่งของ-คน เช่น โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า, IT Distributions หรือแม้แต่โรงพยาบาล เป็นต้น
4. ขายโซลูชั่นและให้บริการด้าน Data Analytics เป็นงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและด้าน AI
ธุรกิจแต่ละประเภทมีสัดส่วนรายได้อย่างไร
ตามงบการเงินเราแบ่งรายได้ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.รายได้จากการขาย มีสัดส่วน 50% ของรายได้รวม
2.รายได้จากการให้บริการ มีสัดส่วน 49.4% โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 70%
3. รายได้อื่นๆ
ลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มไหนบ้าง
มาจากภาคเอกชนประมาณ 90% ของรายได้บริษัท ซึ่งลูกค้าของเราเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อ ส่วนภาครัฐบาลมีสัดส่วนประมาณ 10% ในอนาคตเรามีเป้าหมายที่จะเติบโตทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐ
ทำไมเลือกระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์
เนื่องจากเราเห็นว่า การระดมผ่านตลาดหุ้นจะทำให้เราบรรลุความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ได้เร็วขึ้น เป็นการทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด ย่นเวลาในการไปสู่ความสำเร็จของเราได้โดยเร็ว
การกำหนดราคาหุ้น IPO
เรากำหนดราคาหุ้นที่ 1.75 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ Balance ทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือ เงินที่ระดมได้จากการเพิ่มทุน เราจะนำไปขยายกิจการให้เติบโตขึ้น ขณะเดียวกันเราก็ดูแลนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้น IPO ของเราด้วย ราคาหุ้นที่ตั้ง เรามั่นใจว่ายังมี Upside ให้กับนักลงทุนทุกท่าน
วัตถุประสงค์ในการระดมทุน
เรามีวัตถุประสงค์ นำไปใช้ใน 3 ด้าน
1. ลงทุนในระบบ Cloud เพื่อเพิ่มปริมาณการให้บริการ T. Cloud แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นการลงทุนใน T.Cloud Generation ที่ 3 เพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพสูงขึ้น เร็วขึ้น รองรับความต้องการใช้งานที่มีเป็นจำนวนมาก และเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ T.Cloud Generation 1 และ Generation 2 ปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าปัจจุบันที่ใช้บริการ T.Cloud มากกว่าร้อยสัญญา ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นในปี 2567ประมาณ 60 ล้านบาท
2. เรามีนโยบายที่จะเติบโตโดยการไปลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ทางด้านไอที และเป็นธุรกิจ SME ที่มีรายได้ส่วนใหญ่แบบประจำสม่ำเสมอ และมีแอปพลิเคชั่นของตัวเอง ตั้งแต่ปี 2568-2569 เป็นต้นไป
3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทและบริษัทย่อย
จุดแข็งของบริษัทคืออะไรบ้าง
ในด้านของนักลงทุน จุดแข็งของบริษัทในอดีต เรามีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มาเกือบ 20 ปี ส่วน CEO และ Co-founder มีประสบการณ์ ไม่ต่ำกว่า 25 ปี มีทีมงานก็แข็งแรงที่แข็งแกร่งมาก และในอดีต ผลประกอบการของบริษัท ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง TERA มีอัตราการเติบโตระหว่างปี 2564-2566 โดยเฉลี่ย Compound Annual Growth Rate (CAGR) ประมาณ 24% ทั้งฝั่งรายได้ และกำไรสุทธิ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีฐานะการเงินและกระแสเงินสดแข็งแกร่ง เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้กู้ยืมสถาบันการเงินเลย และมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมออย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 50%
มองแนวโน้มอุตสาหกรรมนี้อย่างไร
เราโชคดีที่อยู่ถูกอุตสาหกรรม เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจ ICT เป็นเมกะเทรนด์ของโลก และมองในภาพเอกชนบริษัท ทุกบริษัทต้องใช้ระบบ IT เพราะเป็นหัวใจของธุรกิจ ขณะเดียวกัน ภาครัฐบาลก็ต้องใช้ระบบ IT เป็นหัวใจและรัฐบาลกำลังเน้น Digital Government ก็จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ตลาดด้าน ICT มีมูลค่าตลาดที่ใหญ่มากและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความสำคัญด้านการใช้งานของบุคคล ถือว่า IT กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะด้านข้อมูลที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเก็บข้อมูลในระบบ Cloud มีความต้องการใช้อย่างมาก ดังนั้นตลาด IT ในภาพรวมเติบโตต่อเนื่องและก้าวกระโดด
แนวทางการดูแลลูกค้าให้ปลอดภัยจากภัยไซเบอร์
เราเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และได้เริ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับ Cyber Security โดยเราใช้ประสบการณ์ที่มีของบริษัท มากกว่า 19 ปีที่ผ่านมา ในการออกบริการที่ชื่อว่า “ตรวจสุขภาพระบบไอที ป้องกับนรกจากผี Ransomware” ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2566
หลังเข้าระดมทุนเราตั้งเป้าอย่างไร
เรามีคำ 3 คำ ที่ยึดถือ คือ 1. เติบโต 2. ยิ่งใหญ่ และ 3. ยั่งยืน
ต้องการให้ TERA เป็นหุ้นแบบไหน
เราปรารถนาให้หุ้น TERA เป็นทั้งหุ้นที่ให้ปันผลดี และหุ้นที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
ชื่อบริษัท TERA มาจากอะไร
มาจากหน่วยวัดความจุ ของเครื่องเก็บข้อมูลหรือ Storage ซึ่งในอดีตความจุมีตั้งแต่ Megabyte, Gigabyte และ Terabyte ในสมัยนั้น หน่วยวัดความจุที่เป็น Terabyte เป็นหน่วยวัดที่มีความจุสูงมาก ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงตัวธุรกิจที่มีความความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการโซลูชั่นและบริการด้าน IT infrastructure ในระดับ Enterprise สำหรับจุดเริ่มต้นของบริษัทฯ (ธุรกิจ SI) แต่บริษัทได้มีพัฒนาการและเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้ขยายธุรกิจไปยังธุรกิจการให้บริการ Cloud และให้บริการแอปพลิเคชั่นทางธุรกิจ ซึ่งเป็นมากกว่าการให้บริการด้าน SI เราจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเทอร์ราไบท์ พลัส นั้นหมายความว่า ความจุหรือความมั่นคง ความแข็งแรงของธุรกิจ เรามีมากกว่าธุรกิจ SI ถึงเกือบ และเป็นสัญญาณที่บอกว่าเราจะขยายธุรกิจ และเติบโตไปอีกมากในอนาคต